ความเป็นมาโครงการ :
หลังจากที่เราได้นำเงินบริจาคจากผู้บริจาคทุกท่านไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว ในการลงรายละเอียดเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง และเป็นการฟื้นฟูอาชีพของเกษตรกร ซึ่งเป็นผู้ประสบภัย เรามีเครือข่ายของผู้ประสบภัยจำนวนร้อยกว่าราย รวมพื้นที่ 1 พันกว่าไร่ รวมทั้งพื้นที่การทำนาทดลองของศูนย์การเรียนรู้พันธุ์ข้าวชุมชนบ้านดักคะนน ณ ที่แห่งนี้ กำนันธวัชชัย กครอบครัว และชาวบ้านจำนวนไม่มาก กำลังทำเพื่อพื้นที่ ให้เกษตรกรเข้าสู่วิถีเกษตรอินทรีย์ และเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ดังนั้นทางโครงการถุงยังชีพถาวร เพื่อการฟื้นฟูอาชีพผู้ประสบภัย จึงได้ร่วมกับกำนันธวัชชัย ในการทำโครงการที่ยั่งยืนเพื่อเป็นแหล่งรายได้ ให้ศูนย์การเรียนรู้พันธุ์ข้าวสามารถดำเนินการต่อไปได้ นอกเหนือจากความช่วยเหลือจากองค์กร หน่วยงานต่างๆ และเงินส่วนตัวจากทางกำนันธวัชชัยเอง โดยเราได้ขอเงินสนับสนุนจากกลุ่มชาวต่างประเทศ BangkokVanguards เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท ตามรายละเอียดของโครงการย่อยๆ จำนวน 4 โครงการ ดังนี้
1. โครงการแปลงนาสาธิต ข้าวพันธุ์ กข 31
แปลงนาสาธิต หรือแปลงทดลองนี้ มีพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ มีการแบ่งพื้นที่เป็น 5 ส่วน คือ
มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้
รวมทั้งสิ้น 11,700 บาท (หนึ่งหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
2. โครงการแปลงนาสาธิต ข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่
แปลงนาสาธิต หรือนาทดลอง มีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ โดยปลูกข้าวด้วยวิธีดำนา ด้วยระยะนิยมทั้งหมดด้วยเครื่องดำนาคูโบต้า ตามหลักการของอาจารย์ชัชวาลย์
มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้
รวมทั้งสิ้น 14,900 บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันเก้าร้อยบาทถ้วน)
3. โครงการโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้า
มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้
4. โครงการโรงเลี้ยงไก่
มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้
รวมทั้งสิ้น 17,600 บาท (หนึ่งหมื่นเจ็ดพันหกร้อยบาทถ้วน)
5. โครงการเลี้ยงปลาช่อน
มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้
รวมทั้งสิ้น 5,000 บาท (ห้าพันบาทบาทถ้วน)
ดังนั้นสำหรับโครงการนี้นั้นเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือให้กับศูนย์การเรียนรู้พันธุ์ข้าวบ้านดักคะนน ในการดำเนินงานเพื่อให้ตัวศูนย์ฯ เองมีรายได้จากการมีแหล่งผลิตอาหาร เพื่อเปลี่ยนอาหารเหล่านี้เป็นเงิน หมุนเวียนกลับมายังศูนย์ฯ หรือเป็นการลดรายจ่ายในการเลี้ยงบุคคลากรภายในศูนย์ฯ เอง สำคัญคือ ทางกำนันธวัชชัยจะนำรายได้หมุนเวียนกลับไปเป็นทุนของศูนย์ให้ครบ 50,000 บาท เป็นพื้นฐานก่อน หากสามารถสะสมเพิ่มเติมได้ก็จะดำเนินการต่อเนื่องต่อไปครับ
การช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งเป็นผู้ประสบภัยนั้น มีจำนวนมากมาย และเรายังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และสนับสนุนผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ท่านยังคงสามารถบริจาคเงินเพื่อร่วมโครงการถุงยังชีพถาวร เพื่อการฟื้นฟูอาชีพผู้ประสบภัย ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังสามารถติดตามความคืบหน้าในโครงการย่อยต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ และสามารถร่วมกิจกรรมได้ทุกโครงการครับ
"โอนเงินเข้า บัญชี "มูลนิธิโอเพ่นแคร์เพื่องานอาสาฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติ" SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 402-177853-3 และรบกวนแจ้งการโอนงินที่แบบฟอร์มนี้http://selfreliefpackage.blogspot.com/2011/10/6.html แล้วติดต่อเพื่อแจ้งการโอนเงินแล้วที่ คุณปรีดา ลิ้มนนทกุล 086-314-7866 หรือ preeda.limnontakul@gmail.com"
ขอบคุณครับ
หลังจากที่เราได้นำเงินบริจาคจากผู้บริจาคทุกท่านไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว ในการลงรายละเอียดเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง และเป็นการฟื้นฟูอาชีพของเกษตรกร ซึ่งเป็นผู้ประสบภัย เรามีเครือข่ายของผู้ประสบภัยจำนวนร้อยกว่าราย รวมพื้นที่ 1 พันกว่าไร่ รวมทั้งพื้นที่การทำนาทดลองของศูนย์การเรียนรู้พันธุ์ข้าวชุมชนบ้านดักคะนน ณ ที่แห่งนี้ กำนันธวัชชัย กครอบครัว และชาวบ้านจำนวนไม่มาก กำลังทำเพื่อพื้นที่ ให้เกษตรกรเข้าสู่วิถีเกษตรอินทรีย์ และเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ดังนั้นทางโครงการถุงยังชีพถาวร เพื่อการฟื้นฟูอาชีพผู้ประสบภัย จึงได้ร่วมกับกำนันธวัชชัย ในการทำโครงการที่ยั่งยืนเพื่อเป็นแหล่งรายได้ ให้ศูนย์การเรียนรู้พันธุ์ข้าวสามารถดำเนินการต่อไปได้ นอกเหนือจากความช่วยเหลือจากองค์กร หน่วยงานต่างๆ และเงินส่วนตัวจากทางกำนันธวัชชัยเอง โดยเราได้ขอเงินสนับสนุนจากกลุ่มชาวต่างประเทศ BangkokVanguards เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท ตามรายละเอียดของโครงการย่อยๆ จำนวน 4 โครงการ ดังนี้
1. โครงการแปลงนาสาธิต ข้าวพันธุ์ กข 31
แปลงนาสาธิต หรือแปลงทดลองนี้ มีพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ มีการแบ่งพื้นที่เป็น 5 ส่วน คือ
- การทำนาทดลอง ด้วยการใช้ต้นกล้า 5 ต้น ระยะห่างในการดำนา 25 ซม. พื้นที่ 2 งาน
- การทำนาทดลอง ด้วยการใช้ต้นกล้า 5 ต้น ระยะห่างในการดำนา 50 ซม. พื้นที่ 2 งาน
- การทำนาทดลอง ด้วยการใช้ต้นกล้า 10 ต้น ระยะห่างในการดำนา 25 ซม. พื้นที่ 2 งาน
- การทำนาทดลอง ด้วยการใช้ต้นกล้า 10 ต้น ระยะห่างในการดำนา 50 ซม. พื้นที่ 2 งาน
- การทำนาทดลอง ด้วยการใช้ต้นกล้า 5 ต้น ดำนาระยะนิยม 15-25 ซม. พื้นที่ 2 ไร่
ต้นข้าวที่มีความแข็งแรงของลำต้นมาก
ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2555
มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าเกรดดิน จำนวน 6,000 บาท
- ค่าตีดิน จำนวน 1,000 บาท
- ค่าเตรียมดิน จำนวน 500 บาท
- ค่าฉีดพ่นอาหารพืช จำนวน 200 บาท
- ค่าเกี่ยวข้าว จำนวน 2,000 บาท
- ค่าน้ำมันดีเซล ใช้ในการดึงน้ำ จำนวน 2,000 บาท
รวมทั้งสิ้น 11,700 บาท (หนึ่งหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
2. โครงการแปลงนาสาธิต ข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่
แปลงนาสาธิต หรือนาทดลอง มีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ โดยปลูกข้าวด้วยวิธีดำนา ด้วยระยะนิยมทั้งหมดด้วยเครื่องดำนาคูโบต้า ตามหลักการของอาจารย์ชัชวาลย์
มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าเกรดดิน จำนวน 8,000 บาท
- ค่าตีดิน จำนวน 1,250 บาท
- ค่าเตรียมดิน จำนวน 900 บาท
- ค่าฉีดพ่นอาหารพืช จำนวน 250 บาท
- ค่าเกี่ยวข้าว จำนวน 2,500 บาท
- ค่าน้ำมันดีเซล ใช้ในการดึงน้ำ จำนวน 2,000 บาท
รวมทั้งสิ้น 14,900 บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันเก้าร้อยบาทถ้วน)
แปลงข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่ จำนวน 5 ไร่
แปลงนาใช้วิธีเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด
3. โครงการโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้า
มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าก้อนเชื้อเห็ด 500 ก้อนๆ ละ 6 บาท รวมจำนวน 3,000 บาท
- ค่าวัสดุทำโรงเรือน จำนวน 2,000 บาท
รวมทั้งสิ้น 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน)
โรงเรือนเห็ดนางฟ้า
4. โครงการโรงเลี้ยงไก่
มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าโรงเรือน จำนวน 5,000 บาท
- ค่ากรงไก่ 24 กรงๆ ละ 200 บาท รวมจำนวน 4,800 บาท
- ค่าแม่ไก่ไข่ 48 ตัวๆ ละ 100 บาท รวมจำนวน 4,800 บาท
- ค่าอาหารไก่ 10 กระสอบๆ ละ 300 บาท รวมจำนวน 3,000 บาท
รวมทั้งสิ้น 17,600 บาท (หนึ่งหมื่นเจ็ดพันหกร้อยบาทถ้วน)
โรงเลี้ยงไก่ ที่มีแม่ไก่ไข่ 48 ตัว
5. โครงการเลี้ยงปลาช่อน
มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าพันธุ์ปลาช่อน 500 ตัวๆ ละ 10 บาท รวมจำนวน 5,000 บาท
รวมทั้งสิ้น 5,000 บาท (ห้าพันบาทบาทถ้วน)
ดังนั้นสำหรับโครงการนี้นั้นเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือให้กับศูนย์การเรียนรู้พันธุ์ข้าวบ้านดักคะนน ในการดำเนินงานเพื่อให้ตัวศูนย์ฯ เองมีรายได้จากการมีแหล่งผลิตอาหาร เพื่อเปลี่ยนอาหารเหล่านี้เป็นเงิน หมุนเวียนกลับมายังศูนย์ฯ หรือเป็นการลดรายจ่ายในการเลี้ยงบุคคลากรภายในศูนย์ฯ เอง สำคัญคือ ทางกำนันธวัชชัยจะนำรายได้หมุนเวียนกลับไปเป็นทุนของศูนย์ให้ครบ 50,000 บาท เป็นพื้นฐานก่อน หากสามารถสะสมเพิ่มเติมได้ก็จะดำเนินการต่อเนื่องต่อไปครับ
การช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งเป็นผู้ประสบภัยนั้น มีจำนวนมากมาย และเรายังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และสนับสนุนผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ท่านยังคงสามารถบริจาคเงินเพื่อร่วมโครงการถุงยังชีพถาวร เพื่อการฟื้นฟูอาชีพผู้ประสบภัย ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังสามารถติดตามความคืบหน้าในโครงการย่อยต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ และสามารถร่วมกิจกรรมได้ทุกโครงการครับ
"โอนเงินเข้า บัญชี "มูลนิธิโอเพ่นแคร์เพื่องานอาสาฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติ" SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 402-177853-3 และรบกวนแจ้งการโอนงินที่แบบฟอร์มนี้http://selfreliefpackage.blogspot.com/2011/10/6.html แล้วติดต่อเพื่อแจ้งการโอนเงินแล้วที่ คุณปรีดา ลิ้มนนทกุล 086-314-7866 หรือ preeda.limnontakul@gmail.com"
ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น